วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ติดตั้งคีย์บอร์ดภาษาไทยและกำหนดให้สลับคีย์บอร์ด thai-english, Raspberry Pi และ Orange Pi

หลังจากติดตั้ง Raspberry Pi ให้สามารถใช้งานโปรแกรมต่างๆ ได้แล้ว ก็ถึงคิวติดตั้งคีย์บอร์ด ไทย-อังกฤษ เบื้องต้นให้เข้าไปติดตั้งที่ raspi-config ด้วยคำสั่ง

sudo raspi-config

จากนั้นให้เลือกคีย์บอร์ดเป็น en-us และ th-th ให้เลือกทั้ง TIS และ UTF (จริงๆ จะเลือกเฉพาะ UTF ก็ได้)

เมื่อเลือกแล้วระบบยังไม่สามารถสลับคีย์บอร์ด ไทย-อังกฤษ ได้ง่ายนัก จึงต้องเข้าไปกำหนดคำสั่งที่ Terminal ก่อนดังนี้

echo "setxkbmap -option grp:switch,grp:alt_shift_toggle,grp_led:scroll us,th" > ~/.xsessionrc
เมื่อกดปุ่ม Enter แล้วระบบจะสร้างไฟล์ชื่อ .xsessionrc ไว้ใน Home Directory ของ pi แต่เวลาเข้าไปดูจะมองไม่เห็นเพราะจะถูกซ่อนไฟล์ไว้ ต้องใช้คำสั่ง ls -a ถึงจะมองเห็น

จากนั้นให้รีบูตเครื่องก่อน ก็จะสามารถสลับคีย์บอร์ดได้โดยกดปุ่ม Alt+Shift

สำหรับ Orange Pi นั้นถ้าเป็น Debian ให้กำหนด dpkg-reconfigure locales แล้วเลือกเพิ่ม th.TH-UTF8  แค่นี้ก็ใช้ได้แล้ว




วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

ใช้งาน ATTINY85 Controller ขนาดเล็ก

แรกเริ่มเดิมทีของคนที่เรียนรู้การเขียนโปรแกรม Arduino มักจะเริ่มต้นที่ Arduino UNO R3 ก่อน ตอนแรกก็มองว่าเป็นบอร์ดขนาดเล็กไม่ใหญ่โตอะไรมากนัก พอเรียนรู้มากยิ่งขึ้นก็เริ่มใช้งาน Arduino Pro Mini หรือ Nana ก็ทึ่งขนาดของบอร์ด

ต่อมาก็เรียนรู้ขึ้นไปอีกว่า งานบางงานใช้ I/O น้อยเพียง 1-2 Input หรือ 1-2 Output ก็ไม่จำเป็นต้องใช้บอร์ดขนาดใหญ่ทำให้งานเล็กลงไปอีก ก็มองบอร์ดที่เล็กลงไปเรื่อยๆ

สำหรับ ATTINY85 ก็เป็นคอนโทรลเลอร์อีกตัวหนึ่งใช้ Chip ของ Atmel เป็นไอซีขนาด 8 ขา มี 6 I/O ถือว่ามีให้มาพอสมควร และสามารถนำไปใช้งานควบคุมได้หลายอย่าง เช่น การควบคุมมอเตอร์ สร้างหุ่นยนต์ขนาดเล็ก ฯลฯ

รูปแสดงขาใช้งานของ ATtiny


วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559

ENC28J60, Ethernet Shield V1.0 ของ Deek-Robot

สั่ง Ehternet Shield จาก ArduilAll.com มาชิ้นหนึ่ง ด้วยความเร่งรีบ ก็ดาวน์โหลดไลบรารีมาใช้งานเลย ตามตัวอย่างก็ใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่ไม่มีส่วนของ DHCP ที่จะรับให้กับตัวบอร์ด จึงไปค้นหาจากเน็ตก็เจอ EtherCard มาใช้เพราะมีตัวอย่าง testDHCP แต่ใช้ไม่ได้ ทำอย่างไรก็แล้ว ไม่สามารถจะรับไอพีจากเราท์เตอร์ได้ ลง-ลบ ไดร์เวอร์หลายก็ไม่ได้

ENC28J60 กับบอร์ด Arduino NANO มีขนาดพอๆ กับแป้นพิมพ์


สุดท้ายลองเข้าไปอ่านในเว็บ Tweaking4All.com เดิมคลิกลิงค์ตามเว็บที่สั่งของก็ไม่ได้ เลยไม่สนใจ

Ethernet Shield V1.0 for arduino compatible Nano 3.0



วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559

รายละเอียดการติดตั้ง PiTFT บน Raspi A+ เพื่อให้เป็นเครื่องสแกนลายนิ้วมือ

บันทึกนี้เขียนขึ้นเพื่อเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับการติดตั้งโปรแกรม และระบบต่างๆ บน Raspberry Pi A+ กับ PiTFT 2.8" Capacitive เพื่อทำเป็นเครื่องสแกนลายนิ้วมือ โดยจะใช้ Fingerprint Reader FZ1035 (China)

Raspberry Pi A+ ต่อ PiTFT 2.8" Capacitive และโปรแกรมตัวอย่าง

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2559

ทดสอบ MCP3008 กับบอร์ด Raspberry Pi A+

ตัวอย่างโปรแกรมใช้งาน IC หมายเลข MCP3008 โดยโปรแกรมนี้จะอ่านค่าจาก สวิทช์ 5 ปุ่มที่ ขา Ch0 และอ่านค่า VR 10k ที่ขา Ch1 แล้วแปลงค่าเป็น Digital Input ไปยัง Raspberry Pi

Switch ของ DFRobot 5 ปุ่ม แต่ใช้สายไฟแค่ 3 เส้น Vcc, Gnd และ Output

PiTFT 2.8" จอภาพขนาด 320x240 จาก Adafruit

หลังจากที่มองๆ อุปกรณ์หลายๆ ตัวเพื่อนำมาใช้งานเกี่ยวกับ Fingerprint Scan สุดท้ายมีแนวโน้มที่จะใช้ Raspberry Pi ในการพัฒนาเพราะสะดวก รวดเร็วกว่า ถึงแม้ว่าราคาต้นทุนจะแพงขึ้นกว่าการใช้บอร์ดคอนโทรลเลอร์ทั่วไป แต่วินาทีนี้ต้องเร่งมือก่อน แล้วค่อยมาพัฒนาทีหลัง

ช่วงนี้ศึกษาการเขียนโปรแกรมด้วย Python อยู่อย่างต่อเนื่อง และเห็นวิธีการเขียนโปรแกรมผ่าน GUI โดยใช้ Tkinter แล้วก็มองเห็นช่องทาง ซึ่งจะรวดเร็วในการพัฒนา จึงคิดต่อไปถึงหน้าจอ ว่าจะใช้แบบไหน หากใช้แบบ LCD หรือ OLED ก็ต้องเขียนคำสั่งในการจัดการหน้าจอกันอีก ดูเหมือนจะใช้เวลา จึงตัดสินใจซื้อจอ PiTFT 2.8" ของ AdaFruit แต่ราคาก็สูงพอสมควร แบบ Resistive ราคา 1,950 และ Capacitive ราคา 2,150 บาท ที่ร้าน ThaiEasyElec แต่ถ้าที่ร้าน GravitechThai จะราคาอยู่ที่ 1,750 บาท สำหรับจอแบบ Capacitive แต่ยังไม่ได้บัดกรีขา และไม่มีสวิทช์มาให้ เลยตัดสินใจซื้อที่ง่ายที่สุด

ลองเปิด Window-X ก็พอดูได้ ถึงจะลำบากสักหน่อย

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2559

Raspberry Pi 3

หลังจากได้รับโทรศัพท์จาก ThaiEasyElec แจ้งว่า Raspberry Pi 3 เข้ามาแล้ว แต่กระนั้นราคาก็แพงกว่า Raspberry Pi2 100 บาท คือ 1,750 บาท และหากซื้อจาก Gravitech ราคา 1,650 บาท แต่ก็ชอบที่จะซื้อจาก ThaiEasyElec เพราะอยู่ใกล้บ้าน พูดคุยถูกคอ ให้คำแนะนำดี น้องๆ ทุกคนต้อนรับลูกค้าด้วยมิตรภาพที่ดี จึงไม่รอช้าบึ่งรถจากบ้านหม้อ (ไปซื้อชุดศึกษา Pic มาลองเล่น) ไปที่ริมคลองประปาทันที

และแล้วก็เสียเงินค่าตัวน้อง Pi3 มา 1 ชุดประกอบด้วย

  1. Raspberry Pi3
  2. Adapter
  3. Case
Raspberry Pi3 กินกระแสมากกว่า Pi2 เนื่องจากเพิ่มอุปกรณ์ Wi-Fi และ Bluetooth เข้ามาด้วย อีกนัยหนึ่งก็สะดวกดี ไม่ต้องหาซื้อเพิ่มเติม 

Raspberry Pi 3 Model B

Gtk4 ตอนที่ 6 Defining a Child object

Defining a Child object A Very Simple Editor ในบทความที่ผ่านมาเราสร้างโปรแกรมอ่านไฟล์ชนิดข้อความ และในบทความนี้ก็จะมาปรับแต่งโปรแกรมกันสักหน...