ใน Raspberry Pi จะมีระบบ mDNS ซึ่งทำให้อุปกรณ์นั้นสามารถกำหนดชื่อแล้วตามด้วย .local เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงเช่น
openelec.local/ หรือ volumio.local/
การเข้าถึงต้องใส่เครื่องหมาย / ต่อท้ายด้วย ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการค้นหาในเว็บเบราเซอร์
ติดตั้ง mDNS
mDNS มีหลายตัวในที่นี้จะใช้ avahi-daemon ซึ่งเป็นที่นิยมใน Linux โดยติดตั้งผ่านคำสั่ง
sudo apt-get install avahi-daemon
เพียงเท่านี้เราก็สามารถเรียกผ่าน mDNS ได้ โดยชื่อโฮสต์เนมเริ่มต้นของ Raspberry Pi มักจะเป็น raspberrypi ดังนั้นเราสามารถเรียกใช้งานผ่าน raspberrypi.local/ ที่เว็บเบราเซอร์ได้ทันที
แก้ไข Host Name
เราสามารถกำหนดชื่อให้สอดคล้องกับเครื่องหรือ Project ของเราเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำได้ เช่น openelec.local เป็นชื่อของระบบ OpenElec หรือ volumio.local เป็นชื่อของ Volumio เป็นต้น
วิธีการให้เข้าไปแก้ไขใน raspi-config ดังนี้
sudo raspi-config
เลือก Advance และเลือก Host name |
ข้อกำหนดการตั้งชื่อจะใช้ตัวอักษรและตัวเลข ห้าใช้อักขรพิเศษ |
เปลี่ยนชื่อที่เราต้องการ |
ทดสอบ ping ชื่อที่เปลี่ยนจากเครื่องในเครือข่ายเดียวกัน
ping raspi-a.local
ถ้าไม่ผ่านก็ต้องไปตรวจสอบ host name กันให้ดี
ติดตั้ง Samba สำหรับแชร์ไฟล์
sudo apt-get install samba samba-common-binเสร็จแล้วเข้าไปแก้ไขไฟล์ smb.conf ดังนี้
workgroup = WORKGROUP wins support = yes
[NAS] comment=Raspberry Pi NAS path=/home/pi/nas browseable=Yes writeable=Yes only guest=no create mask=0777 directory mask=0777 public=Yes***
- wins support = yes ใช้สำหรับ Windows Client
- Public = Yes จะไม่ถาม Password แต่ถ้าต้องการให้ระบุ Password ให้กำหนดเป็น No แล้วใช้คำสั่ง sudo smbpasswd -a pi หลังจากนั้นให้ใส่รหัสผ่าน 2 ครั้งให้เหมือนกัน ปกติก็ใช้ raspberry ตามรหัสล็อกอิน
จากนั้นอย่าลืมเข้าไปสร้างไดเรคทอรีชื่อ nas และ playlists ใน /home/pi แล้วกำหนดให้สามารถเขียนได้ทุกคนด้วยคำสั่ง
mkdir /home/pi/nas
mkdir /home/pi/nas/playlists
chmod -R 777 /home/pi/nas
ติดตั้ง mpd, mpc
จากนั้นให้ติดตั้งโปรแกรมสำหรับเล่นเพลงซึ่งบน Linux มักจะใช้ mpd server และ mpc เป็นโปรแกรมเล่นเพลง เริ่มติดตั้งด้วยคำสั่ง
sudo apt-get install mpd mpc
เสร็จเรียบแล้วเข้าไปแก้ไขไฟล์ /etc/mpd.conf ดังนี้
music_directory "/home/pi/nas"
playlist_directory "/home/pi/nas/playlists"
sudo /etc/init.d/mpd restart
ฟังเพลงกันได้แล้ว
หลังจากติดตั้งโปรแกรมเสร็จต่อไปก็ลองฟังเพลงกัน ก่อนอื่นก็คัดลอกไฟล์เพลงไปเก็บไว้ในไดร์ฟแชร์ที่สร้างขึ้น ในที่นี้คือ nas โดยเข้าผ่าน Windows Explorer ดังนี้
หน้าจอเชื่อมต่อไปยัง raspi-a และมองเห็นโฟลเดอร์แชร์ที่สร้างไว้ |
เมื่อคัดลอกไปแล้วก็กลับไปที่หน้าจอ Terminal ให้ใช้คำสั่งจาก Command Line ดังนี้
อัพเดทไฟล์ใน NAS
mpc update
เพิ่มไฟล์เพลงลงใน Playlists ก่อน ถึงจะเล่นเพลงได้
mpc ls | mpc add
เล่นเพลง
mpc play
mpc pause
mpc stop
mpc next
mpc prev
ปรับเสียง (0-100)
mpc volume 90
ลองดูคำสั่งเพิ่มเตมได้จากเว็บ mpc
ถึงตอนนี้เชื่อว่าผู้อ่านคงเล่นเพลงผ่าน Raspberry Pi ได้กันบ้างแล้ว หากติดขัดประการใดก็สอบถามมาได้ หรือลองกลับไปดูขั้นตอนให้ดี อย่ารีบร้อน โลกของ OpenSource มันต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ ถ้าทำได้แล้วสามารถต่อยอดได้อีกมาก
เราสามารถประยุกต์ใช้ Remote ควบคุมการเล่นเพลงผ่าน Remote หรือสวิทช์กดก็ได้ ซึ่งจะทะยอยแนะนำกันไป...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น